กินยา "พาราเซตามอล" ทุกวันอันตรายไหม

 กินยา "พาราเซตามอล" ทุกวันอันตรายไหมซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี มาที่นี้เลย เว็บหวยออนไลน์จ่ายจริง.com 900/95

ยาพารา หรือชื่อเต็ม พาราเซตามอล เป็นยาสามัญประจำบ้าน เป็นยาสำหรับลดไข้ บรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เป็นหนึ่งในยาที่ผู้คนเลือกใช้แรกๆ เมื่อมีอาการป่วย แต่ยาพาราเซตามอล กินแบบไหนถึงจะถูกต้อง กินต่อเนื่องจะอันตรายไหม วันนี้เรามาดูกัน 

รู้จักยาพาราเซตามอลกันก่อน ว่ามีสรรพคุณอะไร 

พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาในกลุ่มลดไข้ บรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยจากไข้หวัด ปวดฟัน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และปวดจากข้อเสื่อม

ขนาดยาพาราที่แนะนำให้ใช้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย 

ยาพาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดลดไข้ มี 2 ขนาด คือ ขนาด 325 มิลลิกรัม และขนาด 500 มิลลิกรัม ซึ่งต้องกินตามน้ำหนักตัว โดยการกินยาแต่ละครั้ง ควรกินห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง และใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น ปวดหรือมีไข้

ขนาดยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง ควรกินตามน้ำหนักตัว โดยในการกินยา 1 ครั้ง แนะนำให้ใช้ยาขนาด 10-15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ถ้าหากนำน้ำหนักตัวมาคำนวณแล้วเกินกว่า 10-15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) แปลว่าใช้ยาเกินขนาด ซึ่งอาจทำให้เกิดพิษร้ายแรงต่อตับได้

ยาพาราเซตามอล ขนาด 325 มิลลิกรัม

  • น้ำหนัก 45-67 กิโลกรัม กิน 2 เม็ด
  • น้ำหนัก 34-44 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดครึ่ง
  • น้ำหนัก 22-33 กิโลกรัม กิน 1 เม็ด

ยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม

  • น้ำหนัก 67 กิโลกรัมขึ้นไป กิน 2 เม็ด
  • น้ำหนัก 51-67 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดครึ่ง
  • น้ำหนัก 33-50 กิโลกรัม กิน 1 เม็ด
  • สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 22 กิโลกรัม ไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอลแบบเม็ดทุกขนาด ควรเข้าพบแพทย์โดยตรงเพื่อปรึกษาอาการและยาที่ควรใช้

    อาการของการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

    หากรับประทานยาพาราเกินขนาด อาจมีอาการแสดงของการใช้ยาเกินขนาดจะแสดงใน 1-3 วัน มีทั้งหมด 3 ระยะ ได้แก่

    • ระยะที่ 1 คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เหงื่อออก เป็นระยะสั้น ๆ โดยจะเกิดภายใน 24 ชั่วโมง บางรายอาจไม่มีอาการ
    • ระยะที่ 2 หลังกินยาระหว่าง 24-48 ชั่วโมง ไม่มีอาการแสดง แต่เมื่อเจาะเลือดจะพบว่าเอนไซม์ทรานซามิเนส (transaminase) เริ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่แสดงถึงการบาดเจ็บของตับ
    • ระยะที่ 3 หลังกินยาไปแล้ว 48 ชั่วโมง มีอาการตับอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารอีกครั้ง มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนตับอักเสบทั่วไป หากรุนแรงอาจมีอาการสมองเสื่อมจากโรคตับ และเสียชีวิตได้หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที

    กินยาพาราทุกวันอันตรายไหม?

    จากข้อมูลของโรงพยาบาลต่างๆ ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า ไม่ควรรับประทานยาพาราติดต่อกันเกิน 5 วัน หากต้องใช้ยานานกว่านั้นควรปรึกษาแพทย์ เหตุผลหลักๆ คือ

    1. 1.การใช้ยาพาราติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ตับทำงานบกพร่อง
    2. 2.โดยปกติหากเกิน 5 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ควรให้แพทย์ตรวจเพื่อหาสาเหตุเพิ่ม

    ยาพาราแม้จะเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ที่นึกถึงอันดับแรกๆ ดูแล้วเป็นยาที่ไม่อันตราย แต่อย่างไรก็ควรรับประทานให้ถูก อ่านฉลากให้ดี ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากต้องใช้นานกว่าที่กำหนด


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“เหงือกบวม” อาการแบบไหน ควรพบแพทย์

ลดน้ำหนักอย่างได้ผล แค่เดินวันละ 1 ชั่วโมง

"หนังตากระตุก" สัญญาณเตือนโรคร้าย